เคลือบสารหน่วงไฟ ประกอบด้วยเรซินสารหน่วงไฟจากภูเขาสารหน่วงไฟและสารคาร์บอนการคายน้ำไปยังตัวเร่งปฏิกิริยาคาร์บอนและสารทำให้เกิดฟอง การเคลือบจะขยายตัวภายใต้การกระทำของเปลวไฟหรืออุณหภูมิสูงก่อตัวเป็นชั้นโฟมคาร์บอเนเซียสที่หนากว่าการเคลือบเดิมหลายสิบเท่าซึ่งสามารถป้องกันผลกระทบของแหล่งความร้อนภายนอกที่มีต่อพื้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการเกิดการเผาไหม้ประโยชน์ของการป้องกันการเผาไหม้จึงมีมากกว่าการเคลือบสารกันไฟที่ไม่ติดไฟ
ก. สารสร้างฟิล์มหลัก
วัสดุขึ้นรูปฟิล์มชนิดนี้ไม่เพียง แต่มีความสามารถในการใช้งานในอุณหภูมิปกติได้ดีเท่านั้น แต่ยังสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเกิดฟองที่อุณหภูมิสูงได้อีกด้วย ที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่ อิมัลชันอะคริลิกเรซินสังเคราะห์, โพลีไวนิลอะซิเตทอิมัลชัน, อีพอกซีเรซิน, ยูรีเทน, อีพ็อกซี่ - โพลีซัลไฟด์และอื่น ๆ พวกเขาจะรวมกับสารหน่วงไฟอินทรีย์เพื่อให้การเคลือบมีการหน่วงไฟที่ดี
ข. สารขึ้นรูปคาร์บอน
ภายใต้การกระทำของอุณหภูมิและเปลวไฟสูงสารที่สามารถทำให้เป็นคาร์บอนได้อย่างรวดเร็วเรียกว่าสารคาร์บูไรซิ่ง เป็นวัสดุพื้นฐานสำหรับการก่อตัวของชั้นโฟมคาร์บอไนซ์ซึ่งโดยปกติจะเป็นสารประกอบโพลีไฮดรอกซีคาร์บอนสูงเช่นแป้งเพนตาเอริ ธ ริทอลและเรซินอินทรีย์ที่มีไฮดรอกซิล
ค. การคายน้ำต่อตัวเร่งปฏิกิริยาคาร์บอน
หน้าที่หลักของมันคือการส่งเสริมการคายน้ำและการเกิดคาร์บอไนซ์ของสารอินทรีย์ที่มีไฮดรอกซิลเพื่อสร้างชั้นคาร์บอเนตที่ไม่ติดไฟ สารดังกล่าวส่วนใหญ่ ได้แก่ แอมโมเนียมโพลีฟอสเฟตแอมโมเนียมไดไฮโดรเจนฟอสเฟตและฟอสเฟตอินทรีย์
สารก่อฟองขนาดเล็ก
สารที่ทำให้เกิดฟองสามารถย่อยสลายก๊าซดับเพลิงจำนวนมากเมื่อเคลือบได้รับความร้อนและทำให้สารเคลือบขยายตัวจนกลายเป็นโครงสร้างโฟมละเอียดคล้ายฟองน้ำ สารดังกล่าว ได้แก่ แอมโมเนียมฟอสเฟตแอมโมเนียมโพลีฟอสเฟตยูเรียเมลามีนไดแซนไดโมเนียมกวานิดีนพาราฟินคลอรีน (70%) เป็นต้น
ง. ฟิลเลอร์เม็ดสี
โดยทั่วไปแล้วเม็ดสีและฟิลเลอร์อนินทรีย์จะมีความต้านทานต่อเปลวไฟและสามารถเพิ่มความต้านทานเปลวไฟของสารเคลือบได้ ที่นิยมใช้ ได้แก่ : ผงไมกา, แป้งฝุ่น, ผงใยหิน, ดินขาว, ซิงก์ออกไซด์, ไททาเนียมไดออกไซด์, แคลเซียมคาร์บอเนต อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์สังกะสีบอเรตแบเรียมเมทาโบเรตแอนติโมนีไตรออกไซด์ ฯลฯ